12/28/2007
12/23/2007
ทรงพระเจริญ
เป็นอีกหนึ่งของโครงการอักขรศิลป์ที่ได้มีโอกาส ร่วมทำกับ บริษัท ภาคปฏิบัติ ( ถึงจะทำเล่นๆกันในบริษัท ผมก็ชอบ ครับ ^^ )
สามารถดูรายละเอียดของภาพเพิ่มเติมได้ใน http://practicalbkk.blogspot.com/
12/08/2007
" empty space in my head "
11/13/2007
โครงการอักขรศิลป์ " ทรงพระเจริญ "
:: www.songpracharoen.org ::
เนื่องจากกลุ่มคณะวิชาศิลปกรรมศาสตร์ คณาจารย์ นักออกแบบ ศิลปิน บริษัท สยามพิวรรธน์ และองค์กรเอกชนต่างๆได้ร่วมกันจัดโครงการอักขรศิลป์ ทรงพระเจริญ ซึ่งเป็นโครงการออกแบบ และเผยแพร่อักขรศิลป์ ทรงพระเจริญ รูปแบบใหม่ เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา และจะมีการรวบรวมผลงานอักขรศิลป์ ทรงพระเจริญ จากนักออกแบบและผู้ที่ส่งผลงานเข้าร่วม เพื่อจัดแสดงในระหว่างวันที่ 14 - 17 ธันวาคม 2550 บริเวณ โถงชั้น 1 สยามดิสคอพเวอรี่เซ็นเตอร์ และผ่านเว็บไซต์ www.songpracharoen.org
จึงใคร่ขอเรียนเชิญท่านซึ่งเป็นนักออกแบบ ให้เกียรติเข้าร่วมโครงการอักขรศิลป์ ทรงพระเจริญ โดยออกแบบอักขรศิลป์ ทรงพระเจริญ รูปแบบใหม่ขึ้น เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา
:: โดยมีกำหนดส่งผลงานออกแบบดังนี้ ::
ออกแบบอักขรศิลป์ ทรงพระเจริญ
ขนาด A2 (60 x 42 ซม.)
ส่งเป็น File ภาพ jpeg โดยให้มีความละเอียด 150 – 300 dpi
:: ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2550 ::
^ผลงานของ สันติ ลอรัชวี - Practical®studio
^ผลงานของ ธนโชติ ทรัพย์เรืองนาม - Practical®studio
^ผลงานของ ณัฐิกา เลิศวิมลนันท์ - Practical®studio
^ผลงานของ อนุทิน วงศ์สรรคกร และ พฤติกรรมการออกแบบ
^ผลงานของ อนุทิน วงศ์สรรคกร และ พฤติกรรมการออกแบบ
^ผลงานของ สุรัติ โตมรศักดิ์ Try to be nice
^ผลงานของ ปริวัฒน์ อนันตชินะ ( Case Inc. )
^ผลงานของ กัมปนาท เฮี้ยนชาศรี ( Case Inc. )
:: สอบถามเพิ่มเติม ::
อ.พิมพ์จิต ตปนียะ
อ.นิจจัง พันธพจน์
คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
โทร. 02-902-0299 ต่อ 2610, 2618 โทรสาร 02-516-6120
หรือที่ Practical®Studio โทร. 02-9382300-4 ต่อ 1003
10/12/2007
Final
ก่อนอื่นผมขอขอบคุณ อาจารย์ทั้ง 2 ท่านคับที่ช่วยทำให้ผมพัฒนา และเปลี่ยนมุมมองความคิดทางการออกแบบมากมาย จากแค่การเริ่มจาก project เดียวที่ชื่อว่า sequence ตอนแรกที่ได้คำๆนี้มา ผมก็ งง กับมันว่าจะให้ผมทำอย่างไรกับสิ่งที่ได้มา ต่อมาก็เริ่มทำความเข้าใจกับมัน และพอนานไปก็เกิดปัญหากับแค่คำๆเดียวนี้มากมายกับตัวของผม อย่างเช่น สิ่งแรกเลย คือ งง และได้เกิดการทดลองกับงานออกแบบ ( อาจถือได้ว่าเป็นครั้งแรกคับ )เข้าไปจัดการกับกระบวนการการออกแบบ อย่างจริงจังมากกว่าเดิม (ช่วงนี้แหล่ะเกิดความเบื่อ และตัน คับ )แต่พอประสบผลสำเร็จกับการทดลอง ก็มาว่าในเรื่องของ " เปลือก " ช่วงนี้เป็นสิ่งที่ผมเจอปัญหาและโดนว่ากล่าวตักเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า " ชอบทำงานหล่อ " แต่สิ่งที่โดนว่ากล่าวตักเตือนไปผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ทำให้โตขึ้นและยอมรับเหตุผลว่าทำไมถึงโดนอย่างนั้น เปรียบเสมือนการใส่ปุ๋ย ( ขอบคุณคับและผมจะนำสิ่งนี้ไปปรับปรุงแก้ไขกับการออกแบบของผมให้มากขึ้นๆๆๆขอบคุณในการติชมทุกๆเรื่อง ขอบคุณครับ อาจารย์ ติ๊ก อาจารย์ นุ )
*ลืมบอกคับ กระบวนการทดลองที่แล้วมาสามารถเข้าไปดูใน " วิชาการออกแบบสื่อสาร 5 ( งานทดลอง ) " คับ*
how to
REMEMBER ( งานสรุป )
^ ภาพนิ่งงานเคลื่อนไหว
งานสรุปชิ้นนี้เป็นงานที่มาจากหัวข้อของเรื่อง sequence แต่ใน sequence ของผมที่ผมเลือกมานั้นเป็นรูปแบบที่เกี่ยวกับเรื่องของระบบความจำ และได้แตกออกมาเป็นเรื่องของการบิดเบือนความจำระยะสั้นในรูปแบบงานที่เรียกว่า interactive โดยมีการ login เป็นตัวเชื่อมความจำในช่วงต่างๆ งานสรุปชิ้นนี้มีรูปแบบการบิดเบือนความจำและทดสอบความจำ 3 ขั้นตอน และถ้าจำได้ทั้ง 3 ครั้งก็จะเจอฉากจบ ต้องขอ อภัย ณ ที่นี้ว่าเนื่องจากมีปัญหาในเรื่องโปรแกรมเวลาทำภาพเคลื่อนไหวเสร็จ พอโยนเข้าโปรแกรม แฟลช เพื่อที่จะใส่ คำสั่ง login ทำให้ภาพแสดงผลออกมาเล็กกว่าที่ตั้งใจไว้คับ
*เนื่องจากงานสรุปของผมชิ้นนี้เป็นงานในรูปแบบ interactive จึงไม่สามารถที่จะอัพโหลดข้อมูลลง blog ได้จึงทำมาเป็นภาพนิ่งให้ชมในรูปแบบคร่าวๆ คับ*
10/11/2007
sequence ( ตัวอธิบายงาน )
*ตัวอธิบายงานชิ้นนี้ เป็นการอธิบายงาน sequence ตั้งแต่ได้รับโจทย์มาในครั้งแรก ว่าผ่านขั้นตอนอะไรบ้างแบบคร่าวๆเพื่อความเข้าใจโดยง่าย กระทั่งออกมาเป็นงาน interactive*
การจัดแสดงงาน
^ตอนติดตั้งงาน
^อาจารย์กำลังแอบดูตอนยังไม่ present ผลงาน
^มีคนเข้ามาเล่นกับงานและเกิดข้อสงสัยในตัวงาน
9/21/2007
Typography
Pulp Fiction in Typography
clip video นี้เป็นการจัดวางตัวอักษรด้วย visual ของ time base media ด้วยเนื้อหาของหนังเรื่อง Pulp Fiction เป็นการใช้ visual นี้ได้อย่างน่าสนใจ มีการใช้อารมณ์การพูดของตัวละครสื่อสารออกมาเป็น การจัดวางตัวอักษร
Trainspotting in Typography
clip video ชิ้นนี้เป็นการจัดวางตัวอักษรในหนังเรื่อง Trainspotting เป็นอีกรูปแบบที่น่าสนใจเช่นกัน
Typography: fight club verbiage
clip video นี้เป็นการจัดวางโดยใช้การพูดสื่อสารออกมาเป็น การจัดวางตัวอักษร ในหนังเรื่อง fight club
clip video 3 ชิ้นนี้เป็นเรื่องของ ตัวอักษร กับการจัดวางในรูปแบบ ของ time base media โดยใช้อารมณ์ของการพูดสื่อสารเป็นไปในทางรูปแบบ ตัวอักษรซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่ง
ที่มาจาก www.youtube.com
9/16/2007
sequence ( background )
*พื้นหลังงาน timebase media ชิ้นนี้เป็นการทดลองในอีกมุมหนึ่ง เพื่อต้องการหาความแตกต่างจากเดิมที่เป็นแค่พื้นหลัง สี ธรรมดา* การที่เลือกกระดาษเป็นพื้นหลังของงานนั้น เพราะว่า กระดาษเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีหน้าที่ไว้จดเพื่อให้เกิดความจำ ( อีกรูปแบบของการจดจำ ) และเป็นอีกรูปแบบที่สามารถสื่อถึงความจำได้อย่างหนึ่ง
9/10/2007
sequence ( grid system )
9/06/2007
ภาพยนตร์ ฉายซ้ำ
หันไปในทางเดียว แต่ต่างทิศ ขวักไขว่ด้วยสัตว์สังคม วนเวียนไปมา
ดู ภาพยนตร์ด้วยเนื้อเรื่องตามระยะทาง ภาพยนตร์ฉายซ้ำ องค์ประกอบของเนื้อเรื่องเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย แต่ก็ชมได้ไม่มีเบื่อ ( ในทางประจำ )
ที่ที่ฉาย ภาพยนตร์ แห่งนี้มีการเผยสิ่งที่ไม่ควรชมอยู่ด้วย นั่นคือ ความเป็นจริงของ สัตว์สังคม ถอดเปลือกให้เห็นถึงแก่นบางส่วน....................
ขึ้น จ่าย นั่ง หรือ ยืน ( หลับ )
ลงจากที่ฉายภาพยนตร์ ในขณะที่ เนื้อเรื่องของบางคนยังดำเนินต่อไป จนกว่า ผู้ชมคนนั้นจะถึงที่หมาย "
9/03/2007
8/27/2007
sequence ( background color )
*สีที่ได้เลือกมาในการทดลองสีพื้นหลังนี้เป็นสีที่ดูไม่ฉูดฉาดมากเกินไป* จากที่ได้ดูสีพื้นหลังแล้วก็เห็นสมควรว่า ควรที่จะเป็นสีที่ธรรมดา เพราะจะได้ไม่มีผลรบกวนต่อการชมภาพเคลื่อนไหว สีที่เลือกมีอยู่ประมาณ 2 สี คือ สีเทาเข้ม และ สีขาว ซึ่งเป็นสีที่ดูธรรมดา ไม่รบกวนการมองจนมากเกินไป
8/20/2007
sequence ( การเข้ารหัส หรือ login )
การเข้ารหัส หรือ login นั้นจะทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างหน้าหนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่ง เป็นการตอบปัญหาข้อสงสัยของผมเองที่ได้ตั้งข้อสงสัยจากครั้งก่อนในเรื่อง " เมื่อจำรหัสได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น ( ในอีกรูปแบบหนึ่ง )และตอบข้อสงสัยอีกข้อหนึ่ง คือ การที่เชื่อมความจำหนึ่งไปอีกความจำหนึ่งจะมีตัวเชื่อมเป็นในรูปแบบไหนได้บ้าง" ในรูปแบบตัวเชื่อมนี้อาจไม่จำเป็นที่จะเป็นการใส่รหัสตัวเลขเพียงอย่างเดียว อาจเป็นตัวอักษรหรือคำที่ให้ผู้ชมได้จำก็เป็นได้
ทำไมต้องเลือกการ login ( การเข้ารหัส )
1. เสมือนการปลด lock เพื่อนำไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง
2. เป็นเหมือนการตรวจสอบความจำที่ได้มานั้นว่าถูกต้องหรือไม่
*เป็นการตอบข้อสงสัยของผมที่ได้ตั้งไว้ ก็เหมือนเดิมครับถ้าเข้าใจถูกก็ถูกอ่ะครับ*
sequence ( รูปแบบแผนงาน )
หลังจากที่ผมได้ทำการทดลอง เรื่องการบิดเบือนความจำ ผมก็กลับไปที่การตั้งสมมุติฐานครั้งแรกที่ว่า " การที่จะเกิดความจำทั้งระยะสั้นและยาวได้นั้นต้องมีระบบของ sequence คือ ภาพ ( สิ่งเร้า ) ------------ ตา ------------ สมอง ( ระบบของสมอง )แล้วถ้าผมมีการแทรกข้อมูลหรือรูปแบบใดก็ตามจะสามารถบิดเบือนความจำได้ไหม "
diagram การวางรูปแบบงานคร่าวๆ
เมื่อคนดูได้ชมแล้วก็จะเกิดผลที่คาดไว้ 2 ลักษณะ ( ถ้าไม่ผิดพลาด ) คือ
1. คนดูที่สามารถจำข้อมูลที่ให้ดูได้
2. คนดูที่ไม่สามารถจำข้อมูลที่ให้ดูไม่ได้ หรือ จำได้บางตัว
ดังนั้นรูปแบบที่ต้องการสื่อออกมานั้นจะต้องมี 2 ทางเลือกด้วยกันคือ เมื่อคนดูที่จำได้แล้วจะมีการใส่รหัส หรือ การ login ก็จะมีผลต่อเนื่องคือให้ดูงานและจำไปเรื่อยๆและใส่รหัสต่อไปจนถึงตอนจบที่จะมีรูปแบบหนึ่งที่เตรียมไว้ ( ยังไม่แน่ใจกับตอนจบ )กับอีกทางหนึ่งที่ผู้ชมไม่สามารถจำได้ หรือจำได้เพียงบางตัวก็จะมีการ login เหมือนกันแต่ว่าจะมีการหลอกล่อให้ดูและใส่ต่อไปเรื่อยๆเหมือนกับว่าคนที่ดูนั้นจำได้หรือใส่ login ได้ถูกต้องแต่เมื่อถึงตอนท้ายก็จะมีการเฉลยว่า " การใส่login หรือ การจำของคุณนั้นผิดพลาด " และก็จะมีรหัสที่ถูกต้องเฉลยออกมาตอนท้ายของงาน
การที่งานจบแบบนี้เป็นการตอบข้อสมมุติฐานที่ผมได้ตั้งไว้ในตอนแรก ( ถ้าไม่ผิดก็คงถูกอ่ะคับ )แต่เรื่องการเขียนโปรแกรมกับรหัส login ที่จะให้คนดูได้มีการร่วมในตัวงานด้วยนั้นต้องขอเวลาไปศึกษาสักนิด ( ถ้าทำได้ก็คงสนุกอ่ะคับ )
*รูปแบบของงานชิ้นนี้เป็นการวางแผนงานแบบยังไม่สมบูรณ์ อาจจะมีรูปแบบอื่นที่ดูลงตัวและสมเหตุสมผลมากกว่านี้ก็คงต้องทดลองต่อไปครับ*
8/18/2007
sequence ( การทดลองครั้งที่ 3.1 )
*วันนี้เป็นโอกาสที่ดี ( มั้ง ) เพราะผมได้ไปบ้านเพื่อนจึงมีโอกาสได้ อัพโหลดไฟล์วีดีโอซักที ต้องขอบคุณเพื่อนผมที่มีอุปการะกับผมในการอัพโหลดไฟล์วีดีโอชิ้นนี้ครับผม*
งานทดลองชิ้นนี้เป็นงานทดลองเรื่องตัวเลขอีกครั้งหนึ่งในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ( นิดหน่อย )เป็นการทดลองเรื่องขนาดของตัวเลข และการเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนจงใจให้จำตัวเลขนั้นๆ และลองปรับเรื่องความเร็วของตัวเลข ตัวเลขที่นำมาเป็นเบอร์โทรศัพท์ ( หยิบยกเรื่องของชีวิตประจำวัน )
หลังจากที่ให้คนได้ดูงานทดลองชิ้นนี้แล้วจึงเกิดคำถามขึ้นอีกว่า
- การที่ตั้งโจทย์ขึ้นมาก่อนที่จะได้รับชมนั้นมีเจตนาบังคับให้ผู้ชมจำ เป็นสาเหตุให้ผู้ชมมีการเลือกที่จะจำรึเปล่า
เป็นอีกสาเหตุที่ต้องปรับปรุง ( รึเปล่า ) ครับ
8/17/2007
sequence ( การทดลองครั้งที่ 2.1 )
การทดลองนี้ใช้หลักการทดลองแบบเดียวกับตัวเลข คือ การใช้ช่วงจังหวะเวลาในการเปลี่ยนแต่คราวนี้เป็น ตัวอักษรแทน ผมเลยใช้ชื่อของคน ( เป็นเรื่องใกล้ตัว ) มาทดลองดูว่า ถ้าคนได้ดูการเปลี่ยนจังหวะของตัวอักษรนี้แล้วคนที่ดูจะสามารถอ่านชื่อทั้ง 2 ชื่อได้หรือไม่
8/16/2007
sequence ( ย้อนกลับทำความเข้าใจ )
หลังจากที่ผมได้ทำงานการทดลอง เรื่อง การบิดเบือนระบบความจำได้ซักระยะหนึ่งผมก็กลับไปศึกษาเรื่องระบบความจำใหม่อีกครั้งเพื่อหาประเด็นมาทำงานต่อ พอได้ศึกษาระบบ ความจำอีกครั้งก็พบว่าความจำที่จำเป็นต่อคนเราอย่างหนึ่งคือ สิ่งที่ใกล้ตัว และสิ่งรอบตัว เช่น เบอร์โทรศัพท์ , ชื่อคนที่รู้จัก , โฆษณาตามท้องถนน ( เบอร์ติดต่อกับสื่อนั้นๆ หรือส่วนที่เป็นข้อมูล ) , แผนงานในแต่ละวัน สิ่งเหล่านี้น่าจะนำมาใช้เป็นประเด็นในงานทดลองเกี่ยวกับเรื่องระบบความจำได้ในส่วนหนึ่ง ( หรือไม่ ) ต่อจากนี้ก็จะนำเรื่องราวใกล้ตัวมาทำออกมาพัฒนาเป็นงานทดลองชิ้นต่อไป
8/14/2007
sequence ( การทดลองครั้งที่ 1.3 )
8/06/2007
sequence
sequence
การทดลองเกี่ยวกับการบิดเบือนระบบความจำระยะสั้นที่ใช้ตัวเลขจาก รหัสของบัตรเติมเงินโทรศัพท์ เป็นการทดลองว่าตัวเลขที่เห็นจากการเคลื่อนไหวและ การทิ้งช่วงจังหวะของการเคลื่อนไหวในแต่ละหมายเลขจะทำการบิดเบือนกับระบบความจำของมนุษย์ได้หรือไม่?
:: ภาพเคลื่อนไหวของตัวเลข ::
จากที่ให้คนดูภาพเคลื่อนไหวของตัวเลขนี้แล้วผลของการทดลอง คือ การทิ้งช่วงระยะเวลาและการเน้นย้ำหรือการแช่จังหวะเวลาเปลี่ยนตัวเลขมีผลต่อการสังเกตและจดจำของมนษย์ ( บิดเบือนความจำของมนุษย์ )
sequence
จากการที่ได้ทดลองเรื่องการบิดเบือนกับระบบความจำของมนุษย์
- การที่ได้รูปแบบนั้นมาแล้วจะทำเป็นเรื่องอะไรต่อ และเมื่อคนดูจำรหัสหรือตัวเลขนั้นได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น
- รหัสที่ให้คนดูจำนั้นมีความสำคัญอย่างไร และมีความจำเป็นต้องจำรหัสนั้นหรือไม่
- การเชื่อมต่อของการจำรหัสหนึ่งเพื่อนำไปสู่การจำอีกรหัสหนึ่งจะมีตัวอะไรเชื่อมต่อได้บ้าง
- ทำไมต้องเป็นรหัสตัวเลข หรือหมายเลข จะเป็นรูปแบบของการจำแบบอื่นๆได้หรือไม่
- ประเภทรูปแบบของตัวอักษรมีผลต่อการจำด้วยรึเปล่า
จากข้อสงสัยที่เกิดขึ้นมาทำให้ต้องการที่จะหาเหตุและผลมารองรับการนำเสนอเรื่องของการบิดเบือนความจำในครั้งต่อไป ( อาจจะมีข้อสงสัยเพิ่มขึ้นรึเปล่า )
7/30/2007
:: sequence ::
*ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เนื่องจากผมอัพโหลดไฟล์ VDO ไม่ได้จึงนำภาพนิ่งจากไฟล์ VDO มาตัดให้ดูก่อน* ( เป็นงานทดลองชิ้นหนึ่งหยิบยกขึ้นมา )
จากการที่ผมได้ทดลอง เรื่อง การบิดเบือนความจำเป็น Timebase media ในเนื้อหาของ VDO ชิ้นนี้เป็นการให้จดจำตัวเลข 9 หลัก โดยที่จะพูดซ้ำเพียงครั้งเดียว แล้วมีการแทรกเสียงพูดตัวเลขมาตลอด จากนั้นผมได้ให้คนดู 5 คน ดู VDO ชิ้นนี้
:: ผลของการทดลอง ::
4 คน จำได้
เหตุผล
- ตัวเลขในการจำง่ายเกินไป และน้อยเกินไป
- เป็นบุคคลที่จำตัวเลขได้ดี
1 คนจำไม่ได้
เหตุผล
- มีเสียงเข้ามาแทรกระหว่างการท่องจำ
- ไม่ให้ความสนใจมากพอ
7/23/2007
7/16/2007
sequence 4
ลักษณะการเกิดความจำอีกรูปแบบหนึ่ง
เมื่อรับข้อมูลเข้าไปแล้ว ( input ) ต้องเกิดการ เอาข้อมูลออกมา ( output ) จะทำให้เกิดการทบทวนแล้วกลายเป็นความจำขึ้นมา
----------------------------------------------------------------
ผมได้ทำความเข้าใจกับการบิดเบือนความจำใหม่อีกครั้ง การบิดเบือนความจำนั้นเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อขณะเกิดการท่องซ้ำบทความ หรือให้ความสนใจสิ่งๆหนึ่งอยู่แล้วเกิดมีการ พูดแทรก หรือได้รับสิ่งเร้าอีกสิ่งหนึ่งเข้ามารบกวนจนทำให้ไม่มีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ต้องการจะจดจำ จนทำให้เกิดการจำผิดหรือเกิดการจำที่บกพร่อง
ถ้าผมเข้าถูกก็คงไม่ผิดอ่ะคับ ( อีกครั้ง )
7/09/2007
sequence 3
ความจำจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อเริ่มจากความสนใจจดจ่อ แต่ถ้าเป็นทฤษฎีความทรงจำเกิดจาก
1. การท่องซ้ำ ( Rehearsal )
2. การขยายความคิด คือ การสร้างความสัมพันธ์ หรือ เชื่อมโยงระหว่างสิ่งที่จะเรียนรู้ใหม่ หรือข้อมูลใหม่ กับความรู้เดิมของผู้เรียนที่เก็บไว้ในความจำระยะยาว ซึ่งจะช่วยในการเรียนรู้อย่างมีความหมาย ( Meaningful learning )
ฉะนั้นผมจะเอาหลักของทฤษฎีนี้มาผสมในการทดลอง และกำหนดรูปแบบการทดลอง คือ
1. ตัวอักอักษร
2. ภาพนิ่ง
3. ภาพเคลื่อนไหว
7/02/2007
proposal
ที่มา
- จากการที่ได้หาความหมายของ Sequence ผมก็ลองแตกคำนี้ดูจนได้คำว่า "สมอง" มาจากนั้น ก็ลองเสนอดูแล้วก็ลองหาข้อมูลดูจนได้เรื่อง ความจำ .................. "ที่มาผมได้อธิบายไปแล้วอยู่ด้านล่างคับ"
วัตถุประสงค์
- เพื่อศึกษาความเป็น Sequence ของระบบสมอง "การจำ"
- เพื่อทดลองการจำของมนุษย์เมื่อถูกบิดเบือนด้วยการทำลาย Sequence
- เพื่อตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับระบบ สมอง ว่าถ้าถูกบิดเบือนมันจะมีผลกระทบอะไรต่อความจำหรือไม่
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
- เข้าใจระบบ ความจำของสมอง
- เข้าใจกับข้อสมมุติฐานที่ได้ตั้งเอาไว้
ขอบเขตของโครงการ
Timebase Media
6/25/2007
sequence 2
จากอาทิตย์ที่แล้วที่ผมได้เสนอเรื่องของระบบสมองไป ในขณะนั้นผมก็ยัง งง กับตัวเองอยู่ว่าจะทำเรื่องอะไรเกี่ยวกับสมองดี พอหาข้อมูลไปเรื่อยๆ ผมก็ได้เรื่องเกี่ยวกับความทรงจำมา ความจำแบ่งเป็น 2 ประเภท คือความจำระยะสั้นกับ ความจำระยะยาว ความจำระยะสั้นนั้นจะเป็นความจำที่เกิดขึ้นภายใน 30 วินาทีต่อจากนั้นก็จะมีการลืมเกิดขึ้น แต่ความจำระยะยาวนั้นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราให้ความสนใจกับสิ่งนั้น หรือเกิดการซ้ำของภาพนั้นไปเรื่อยๆจนเกิดเป็นความจำที่ถาวรที่เรียกว่าความจำระยะยาว
ตัวอย่างระบบของการจำ
การรับข้อมูล ------------ การเก็บรักษาข้อมูล ------------ การระลึกได้ ( ระบบความจำ )
ภาพ ( สิ่งเร้า ) ------------ ตา ------------ สมอง ( ระบบของสมอง )
ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดก็ถูกอ่ะคับ ( อีกครั้ง )
6/24/2007
มืด..................................................................สวย
เช้าวันหนึ่ง ผมตื่นขึ้นมาโดยที่ผมไม่รู้ว่าผมหลับตาลงเมื่อไหร่ตอนที่ผมกำลังนอน ผมเดินลงมาจากห้องนอนเหมือนทุกครั้ง แม่ผมเรียกให้มากินข้าวเช้าเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมคือ วันนี้ผมไม่มีเรียน เพราะ โรงเรียนผมหยุดโดยไม่รู้สาเหตุ ต๊ะ.....ต๊ะ...... แม่ผมเรียกให้ไปช่วยตากผ้าเป็นประจำ พอเสร็จธุระจากงานบ้าน ผมก็มานั่งฟังเพลง จิบน้ำชาอยู่หน้าบ้านพร้อมกับมองดูท้องฟ้าเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ และก็นั่งคิดว่าถ้าผมลองหลับตาดูว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นโดยที่นั่งหลับตานานๆ อยู่ตรงที่แห่งนี้ ว่าแล้วผมก็เลยลองหลับตาลงทันที ตอนนี้ผมหลับตาเป็นเวลานานพอสมควร ผมตื่นเต้นกับการที่จะค่อยๆ เปิดตาขึ้นดู.......แล้วผมก็เปิดตาขึ้น เฮ้ย!!! ผมอยู่บนหน้าผาอีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้น ผมก็จะตกลงไป ไม่ได้ ไม่ได้ ไม่เอา ผมคิดในใจ ผมก็ลองหลับตาดูอีกครั้งคราวนี้ตรงหน้าผมมีแต่คนเดินไปมามันก็ไม่มีอะไรแปลก แต่ทำไมคนเหล่านั้นมีหัวเป็นมดเดินไปมา พวกเค้ามองผมด้วยความสงสัยว่าทำไม ผมไม่เหมือนกับพวกเค้า ผมคิดในใจว่าคงเป็นแฟชั่นของที่นี่ละมั้ง ที่เขาทำกันเหมือนเด็กที่สยาม........ อ่าว.......ผมงงว่าพวกเขาเดินมาหาผมทำไมพวกเขาอ้าปากเหมือนกำลังจะเข้ามากินผม ผมพยายามที่คิดจะวิ่งหนี แต่ผมคงวิ่งไม่ทันแน่ๆ ผมลนลานผมอยากที่จะหนีออกจากที่นี่ ขณะนั้นผมก็นึกออกว่าเออ มันต้องหลับตา ผมก็เลยหลับตาลงอีกครั้ง คราวนี้ ผม....ผม เฮ้ย ผมกำลังลอยอยู่ ผมลองสังเกตตัวเองดู อ่าว....ทำไมมีปีกอ่ะ ผมลองค่อยๆ บินไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่าบินเป็นตอนไหน พอลองบินไปได้ซักพัก ผมก็รู้สึกว่ารอบตัวผมมีทั้งดอกไม้ กับผีเสื้อที่แปลกตา แล้วก็เสียงเพลงที่แปลกหู ที่ผมไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ผมรู้สึกสงบมาก และผ่อนคลายไปตามบรรยากาศ ที่ไม่เหมือนเมืองที่ผมอยู่มันมีแต่ความวุ่นวายกับมลภาวะทางสายตา พอเคลิ้มไปได้ซักพัก ผมก็หลับตาลงเองโดยที่ไม่รู้ตัว พอผมรู้สึกตัวอีกที ผมก็อยู่ที่ที่เดิม และเวลาก็เวลาเดิม
ผมอยากกลับไปที่ตรงนั้นอีกครั้งหนึ่ง ผมก็เลยลองหลับตาอีกทีแต่คราวนี้ ผมไม่ได้ไปไหน แต่ สิ่งที่ผมไม่เคยได้สัมผัสในตอนนี้ ก็คือ ผมรับรู้ทั้งเสียงและกลิ่น ได้ดีกว่าเดิมในขณะที่ผมหลับตาลง
Br_nd
6/17/2007
sequence
Sequence ตอนๆหนึ่งของภาพยนตร์ ซึ่งเกิดจาก scene หลาย scene มารวมกันมีความสมบูรณ์ในตัวมันเอง อาจเริ่มต้นและจบลงด้วยการเชื่อมภาพแบบ fade ,dissolve หรือ cut ภาพยนต์เรื่องหนึ่งจะประกอบด้วย Sequence หลายๆ Sequence มารวมกันเป็นเรื่องราว เช่น Sequence ตอนพระเอกยังวัยเด็ก , Sequence ตอนพระเอกพบรักครั้งแรก ( Sequence จากหนัง)
.....................................................................................................
ตามความเข้าใจของผม Sequence คือการเรียงลำดับนั่นเองในการพูดกันง่ายๆ แต่คนเราจะมองไม่เหมือนกัน Sequence มีอยู่ทุกที่ในรอบตัวเรา การกระทำของเราในบางครั้งหรือบางช่วงจังหวะก็ยังเป็น Sequence ในทางคณิตศาสตร์ก็มี Sequence ของมันเอง แต่ในทางของผม ผมได้แตกคำว่า Sequence ออกมาเป็น my map แล้วก็ได้คำเหล่านี้มา คือ เหตุการณ์ ,สมอง ,ตา ,การเฝ้ามอง ,จุดเริ่ม ,ผลกระทบ ฯลฯ พอได้เวลาไม่นานคำว่า Sequence ก็เริ่มเข้ามาในหัวผม วนเวียนอยู่เรื่อยๆ การที่จะมองอะไรให้เป็น Sequence นั้นมันทำได้ทุกทางแล้วแต่จะเอาเรื่องนั้นๆ ที่เราสนใจมาผูกเข้าด้วยกันแบบหลวมๆ หรือแน่นๆ ก็ได้ แต่ในส่วนของผม ผมคิดว่าสมองมีความเป็น Sequence เพราะระบบการจัดการ การเรียงความจำ หรือการคิด (ไม่รู้ผมคิดผิดหรือถูกนะคับ) Sequence จะมีตัวนำพาทำให้เกิดผลกระทบที่ได้ตามมา "ถ้าผมไม่เข้าใจผิดผมก็เข้าใจถูกอ่ะคับ" ผมว่า............. .
Movie Sequence
.............................::Amelie::...................................
หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของ สาวน้อยที่ต้องการให้ทุกคนมีความสุข และสร้างความสุขให้กับทุกคน เพราะชีวิตในวัยเด็กของเธอไม่มีเพื่อนเล่นด้วย สาเหตุมาจากการเข้าใจผิดของพ่อเธอเอง....................................ผมจะเกิ่นเนื้อเรื่องขาดตอนแบบนี้ เพราะ ผมไม่อยากให้เสียอรรถรสในการชมหนังเรื่องนี้
Sequence กับความเข้าใจของผมในหนังเรื่องนี้.......................................
เรื่องนี้เป็นหนังที่ผมเลือกมา เพราะ ความชอบส่วนตัวบวกกับความเป็น sequence ของหนังเรื่องนี้ นางเอกที่ชื่อ Amelie เป็นคนทำให้เกิดความต่อเนื่องโดย Amelie เป็นคนที่ชอบทำให้คนอื่นได้รับความสุขด้วยการสร้างเรื่อง และวางแผนเป็นขั้นตอนจากความฉลาดหลักแหลม ไม่เว้นแม้กระทั่งการเล่นกับคนที่ตัวเองหลงรักก็ตามด้วยการทำเกมส์ที่ตัวเองคิดขึ้นมาให้แผนที่วางไว้เป็นไปตามนั้น และถ้าใครเคยได้ดูหนังเรื่องนี้ก็จะสังเกตเห็นได้ว่าตัว Amelie เป็นคนฉลาดในการเรียงลำดับความคิดที่ทำให้เกิดความต่อเนื่อง (Sequence) ตั้งแต่ตอนเริ่มจนจบ ด้วยการที่ Amelie ทำเหตุให้เกิดเป็นผลที่วางไว้ในการกระทำของตัว Amelies นั่นเอง แต่โดยส่วนตัวนั้นผมคิดว่า "หนังทุกเรื่องนั้นย่อมมีความเป็น Sequence ของตัวมันเองอยู่ แล้วแต่คนดู หรือคนเขียนบทแม้กระทั่งคนกำกับเองจะมองในมุมไหน มันขึ้นอยู่กับมุมมองนะ" ผมว่า........ .